กลยุทธ์ส่งเสริมแนวคิด circular economy ของธนชาตประกันภัย การผลักดันแนวคิดภายใต้ประเด็น Circular Economy เพื่อความสัมฤทธิ์ผลในการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ให้ความสำคัญตามหลัก 3R คือ Reduce (ลดการใช้) Reuse (ใช้ซ้ำ) และ Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่) ผ่านโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ในชีวิตประจำวัน ด้วยการลดการสร้างขยะใหม่ และยังเพิ่มการหมุนเวียนทรัพยากรด้านพลังงานและน้ำ เพื่อนำมาใช้งานให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า ยังรวมถึงการลดการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

Reduce
นำนวัตกรรมที่เกี่ยวกับการลดการใช้พลังงานมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจอาทิ หลอดประหยัดไฟ หรือ พลังงานสะอาด
สร้างกระบวนการ Maintenance ระบบการจัดการสำนักงานสม่ำเสมอ เพื่อความประสิทธิผลในการทำงานของระบบต่าง สร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานเพื่อลดการใช้ทรัพยากรและการจัดการขยะ

Reuse
สร้างค่านิยมในการใช้ซ้ำ หรือ ลดการสร้างขยะในทุกขั้นตอนการดำเนินธุรกิจหรือการใช้ชีวิตของพนักงาน

Recycle
นำขั้นตอน วิธีการ การจัดการขยะอย่างเหมาะ เพื่อนำวัสดุที่สามารถนำมา recycle ได้ไปผ่านขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
เป้าหมาย | ความคืบหน้าในการดำเนินการปี 2567 |
มีการให้ความรู้กับพนักงานอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุ้มค่าภายใต้แนวคิด 3R | มีการดำเนินการกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และมีส่วนร่วมให้กับกลุ่มพนักงานและลูกค้ามากกว่า 5 ครั้งตลอดปี 2567 อาทิ - โครงการนำ Uniform เก่าไป recycle เป็นเนื้อผ้าสำหรับการผลิต Uniform ใหม่ - โครงการเสริมสร้างพฤติกรรมการคัดแยกขยะเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำไปสู่การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า - โครงการส่งเสริมการรับกรมธรรม์อิเลคทรอนิกของลูกค้า |
ระยะยาว 2568-2570 ลดประมาณการใช้ทรัพยากรน้ำและพลังงานลงได้ 10% | มีการดำเนินการต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรไฟฟ้าและน้ำ ในอาคารสำนักงาน แต่อย่างไรก็ดี ธนชาตประกันภัยมีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 11.77% จากปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่มีการพลังงานต่ำกว่ามาตรฐานเนื่องจากเป็นปีที่ได้รับผลกระทบจาก Post Covid ซึ่งมีบุคลากรเข้าใช้งานพื้นที่สำนักงานค่อนข้างน้อย แต่หากเมื่อเทียบกับปี 2565 อัตราการการใช้พลังงานไฟฟ้าลดลงกว่า 5% |
การมีส่วนร่วมของพนักงานต่อการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้หัวข้อ circular economy
- โครงการ “พี่ชาตอาสาช่วยลดโลกร้อน” ร่วมส่งมอบชุดยูนิฟอร์มเก่ารวมน้ำหนักทั้งหมด 1,445 กิโลกรัม ส่งมอบต่อให้กับ SG GRAND ผู้ผลิตผ้ารีไซเคิล & sustainable textiles ที่เป็นมิตรและลดผลกระทบที่ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปรีไซเคิลด้วยเทคโนโลยีสำหรับรีไซเคิลผ้าโดยเฉพาะ คัดแยกเส้นใย และนำไปถักทอเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตชุดยูนิฟอร์มพนักงานใหม่ โดยสามารถผลิตได้จำนวน 4,397 ตัว ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะ และลดภาระให้กับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 5,572 กิโลกรัม หรือเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ จากการขับรถได้ 21,270 กิโลกรัม ช่วยลดการใช้น้ำ 636,580 ลิตร หรือสามารถเพิ่มปริมาณน้ำสะอาดใช้ต่อได้อีก 335,037 วัน และช่วยลดการใช้พลังงาน 9,392 กิโลวัตต์/ชั่วโมง เทียบกับการใช้หลอดไฟได้ถึง 722,919 ดวง
- โครงการ “ลดการสร้างขยะ” เป็นโครงการให้ความรู้กับพนักงานเพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญในการจัดการขยะที่จะช่วยให้เกิดความสำนึกในการใช้ทรัพยากรต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงลดการเกิด GHG จากการจัดการขยะผิดประเภทอีกด้วย อีกทั้งบริษัทยังได้ ติดตั้งถังขยะที่มีการแยกประเภท บริเวณห้องอาหารของทุกชั้นในอาคารสำนักงาน และนำไปวางรวบรวมที่จุดพักขยะของศูนย์การค้าเดอะไนน์ เพื่อการเก็บขยะของทางหน่วยงานราชการ สำหรับขวดพลาสติกมีการคัดแยก แล้วนำส่งให้ศูนย์การค้าเดอะไนน์ ซึ่งร่วมกับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ในโครงการ GC You เทิร์น ด้วยการจัดการขยะพลาสติกให้เข้าสู่กระบวนการและนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง
การมีส่วนร่วมของลูกค้าต่อการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้หัวข้อ circular economy
โครงการ “สนับสนุนการรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์” เพื่อลดการใช้กรมธรรม์กระดาษโดยส่งเสริมให้ลูกค้าดาวน์โหลดกรมธรรม์ฯ ผ่าน LINE Official Account “ธนชาตประกันภัย” โดยในปี พ.ศ.2567 มีลูกค้าดาวน์โหลดกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์กว่า 300,000 ครั้ง ซึ่งหากเป็นการขอ reprint จะทำให้บริษัทฯ ใช้กระดาษกว่า 1,000,000 แผ่น
โครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้หัวข้อ Circular Economy
โครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรไฟฟ้าและน้ำ ในอาคารสำนักงาน
- เปลี่ยนหลอดไฟในพื้นที่สำนักงานให้เป็นหลอดประเภท LED แบบกลมทั้งหมดภายในอาคาร ประมาณ 410 หลอด
- ใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานสะอาด นำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า โดยดำเนินงานร่วมกับศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ติดตั้งแล้วเสร็จบริเวณดาดฟ้า อาคาร A สามารถกักเก็บพลังงานได้ 544 kw./วัน
- ลดการใช้งานระบบเติมอากาศภายในอาคาร (AHU) ให้เหมาะสม โดยลดเวลาการเปิดใช้จาก 9 ชั่วโมงเหลือ 4 ชั่วโมง พร้อมกำหนดแผนการบำรุงรักษาทำความสะอาด Filter เครื่อง AHU ทุกสัปดาห์เพื่อไม่ให้สกปรก ลดการโหลดการทำงานหนักของตัวเครื่อง
- เพิ่มมาตรการการทำความสะอาดคอยล์ร้อนและคอยล์เย็น จากการเข้าทำความสะอาดล้างใหญ่ ปีละ 2 ครั้ง (ทำความสะอาด คอยล์ร้อนและคอยล์เย็น) โดยการเข้าทำความสะอาดล้างย่อย ปีละ 2 ครั้ง (ทำความสะอาด Filter หน้าเครื่อง)
- จัดทำระบบการจัดการและดูแลอาคารอย่างเป็นมาตรฐาน ทั้งด้านวิศวกร ระบบไฟฟ้า น้ำประปา โดยกำหนดแผนซ่อมบำรุงในทุกส่วนที่ใช้พลังงานและทรัพยากร เพื่อให้เครื่องและอุปกรณ์ภายในสำนักงานมีประสิทธิภาพ มีอายุการใช้งานที่มากขึ้นและประหยัดพลังงาน รวมถึงการควบคุมการใช้พลังงานในอาคารได้อย่างเหมาะสม ให้สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เช่น การเข้าทำงานแบบ Hybrid) การเปิดใช้พลังงานในพื้นที่ที่จำเป็น หรือ ใช้งาน เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลมระบายอากาศในพื้นที่ และการปิดใช้งานตู้เย็น เป็นต้น
- ดำเนินการตามแผนรณรงค์เพื่อลดการใช้พลังงานและประหยัดทรัพยากร โดยการติดตั้งป้ายรณรงค์การใช้บันไดระหว่างชั้นเพื่อลดการใช้งานลิฟท์โดยสาร การติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ตามจุดสวิตช์ เปิด-ปิดไฟฟ้า ให้เปิดเมื่อใช้งาน การติดตั้งป้ายการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่พอดีกับสภาพอากาศเพื่อให้ช่วยกันประหยัดพลังงาน และติดตั้งป้ายลดการใช้กระดาษเช็ดมือภายในห้องน้ำเพื่อให้พนักงานช่วยกันประหยัด
อ่านบทความประเด็นความสำคัญเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม : กลยุทธ์ส่งเสริมแนวคิด Climate Change ของธนชาตประกันภัย ->คลิก