ประเด็นความสำคัญความยั่งยืนด้านสังคม เพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ในฐานะบริษัทประกันภัยรถยนต์ชั้นนำ ธนชาตประกันภัยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับ มิติทางสังคม ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเสาหลักของกลยุทธ์ของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนขององค์กรโดยได้วางแนวทางและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามกรอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals - SDGs) โดยเฉพาะใน 6 มิติสำคัญที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของการพัฒนาองค์กรและสังคมอย่างยั่งยืน ได้แก่

  1. การเป็นพลเมืองบรรษัทและการทำประโยชน์เพื่อสังคม (Corporate Citizenship and Philanthropy): เรามีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสังคม ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัย การสนับสนุนการศึกษา และการร่วมมือกับองค์กรภายนอกในการสร้างสังคมที่ดีขึ้น
  2. การปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม (Labor Practice): เราส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่เคารพสิทธิและความเท่าเทียม มีนโยบายในการจ้างงานอย่างโปร่งใส และให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรม
  3. การเคารพสิทธิมนุษยชน (Human Rights): บริษัทฯ ยึดมั่นในการเคารพและปกป้องสิทธิมนุษยชนของพนักงาน คู่ค้า และชุมชนโดยรอบ พร้อมกับหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมใด ๆ ที่อาจกระทบต่อสิทธิมนุษยชน
  4. สุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน (Occupational Health and Safety): เราให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน ด้วยการจัดอบรมและสร้างความตระหนักรู้เรื่องความปลอดภัย พร้อมทั้งจัดให้มีมาตรการดูแลสุขภาพอย่างรอบด้าน
  5. การพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital Development): บริษัทฯ สนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะของพนักงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านการฝึกอบรม การให้โอกาสในการเติบโตทางอาชีพ และการสนับสนุนการพัฒนาความรู้ใหม่ ๆ
  6. การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relation Management): บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างความพึงพอใจและความไว้วางใจของลูกค้า ด้วยการให้บริการอย่างโปร่งใส ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว และรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำมาปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้น

การดำเนินงานในแต่ละมิติสะท้อนถึงความรับผิดชอบของบริษัทฯ ต่อสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน และเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความยั่งยืนทั้งในระดับองค์กรและสังคมโดยรวม

กิจกรรมภายใต้ประเด็น : Corporate citizenship and philanthropy
ขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน: บทบาทของธนชาตประกันภัยร่วมพัฒนาสังคมสู่ความยั่งยืน

ธนชาตประกันภัยตระหนักถึง ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน และมีบทบาทสำคัญในฐานะเครือข่ายเฝ้าระวังและป้องกันอุบัติเหตุ โดยเข้าร่วมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลภายใต้ แผนทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน และ แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุในแต่ละช่วงเวลาสำคัญ โดยเฉพาะเทศกาลที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ปีใหม่ 2567 ที่พบว่าถนนกรมทางหลวงเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 42.5% รองลงมาคือถนนใน อบต./หมู่บ้าน 30.5% ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดใน จุดตัด ทางโค้ง และทางแยก บริษัทฯ จึงสนับสนุนแนวทาง เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังจุดเสี่ยง และให้ท้องถิ่นเป็นเจ้าภาพหลักในการบริหารจัดการความปลอดภัยบนถนน

จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจประกันภัยรถยนต์กว่า 26 ปี บริษัทฯ พบว่ายังมีอัตราการเคลมอุบัติเหตุสูงถึง 8,000 เคส/เดือน หรือเฉลี่ย 270 เคส/วัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเดินทางระยะสั้นในเขตเมืองและชุมชนยังคงถูกมองข้ามเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงจากความเคยชินและความประมาท ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานทางถนนในหลายพื้นที่ยังไม่ได้มาตรฐานเพียงพอ ที่จะช่วยลดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากข้อมูลเหล่านี้ บริษัทฯ ได้นำมาพิจารณาแนวทางเพื่อลด ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับครอบครัวจนถึงระดับประเทศ โดยนอกจากการใช้มาตรการทางวิศวกรรมจราจรแล้ว การให้ชุมชนมีบทบาทเป็นเจ้าของแนวทางลดอุบัติเหตุในพื้นที่ของตนเอง ถือเป็นกระบวนการที่สำคัญที่สุด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้แนวคิด “Yes, We Safe” ซึ่งมุ่งจัดโครงการที่สอดคล้องกับลักษณะธุรกิจและทำงานร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและประชาชน เพื่อ ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน

กลยุทธ์และขั้นตอนการดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่าย

โครงการ "พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย"

โครงการ "พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย" มีเป้าหมายเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินรวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจในระดับครอบครัว ชุมชน และระดับมหภาค โดยใช้ 4 กลยุทธ์หลัก ดังนี้

  • การมีส่วนร่วมของชุมชน (Collaboration): ส่งเสริมให้คนในชุมชนมีบทบาทในการริเริ่มและตื่นตัวกับปัญหาความปลอดภัยบนถนน
  • การสร้างองค์ความรู้: ให้ความรู้ในการวิเคราะห์และจัดการปัญหาอุบัติเหตุในพื้นที่ชุมชน
  • การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม: สนับสนุนให้เกิดกระบวนการจัดการปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การสร้างความยั่งยืน (Sustainable Road Safety): พัฒนากระบวนการคิดแก้ไขปัญหาที่สามารถนำไปใช้ในระยะยาว

โดยมีรูปแบบและขั้นตอนการดำเนินโครงการร่วมมือกับภาคีเครือข่าย หน่วยงานภาครัฐและองค์กรพันธมิตรร่วมกันขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนนผ่านการประกวดแผนลดจุดเสี่ยง เพื่อถนนปลอดภัยในชุมชน โดยทีมงานต้องมีอย่างน้อย 4 คนจากหลากหลายภาคส่วนในพื้นที่ ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาด้านกายภาพและพฤติกรรมทางสังคม พร้อมวางแนวทางการแก้ไขจุดเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

  1. การสมัครและคัดเลือกชุมชน
    • ดำเนินการสมัครแบบ Step-by-Step ผ่านเว็บไซต์ พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย
    • ทุกขั้นตอนออกแบบให้ชุมชนสามารถแสดงศักยภาพและเรียนรู้แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
    • คัดเลือก 20 ชุมชนในรอบแรก และคัดเลือก 10 ชุมชนสุดท้าย ผ่านคณะกรรมการจากภาคีเครือข่าย
  2. ดำเนินการปรับปรุงจุดเสี่ยงในชุมชนที่ผ่านการคัดเลือก
    • ปรับปรุงและดำเนินมาตรการตามแผนที่นำเสนอ
    • จัด อบรมให้ความรู้ เพื่อสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
  3. การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
    • ติดตามผลกระทบของโครงการในชุมชน
    • ประเมินผลการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับขี่และจิตสำนึกของคนในพื้นที่

โครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี เพื่อ ยกระดับชุมชน 30 แห่งทั่วประเทศ ให้มีถนนที่ปลอดภัยขึ้น ทั้งด้านโครงสร้างกายภาพและพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ถนน

30 ชุมชนร่วมพัฒนาสังคมสู่ความปลอดภัยอย่างยั่งยืนกับธนชาตประกันภัย

ปีที่ 1: (10 ชุมชน ใน 8 จังหวัด) ดำเนินการแก้ไขจุดเสี่ยงใน 10 ชุมชน ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่:

  • ภาคเหนือ: อบต.บ้านหนุน (แพร่), อบต.สะเนียน (น่าน)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: อบต.ศรีภูมิ, เทศบาลตำบลนาโพธิ์ (บุรีรัมย์)
  • ภาคกลาง: อบต.โพกรวม (สิงห์บุรี)
  • ภาคตะวันออก: อบต.บ้านช้าง, อบต.บ้านเซิด (ชลบุรี)
  • ภาคใต้: เทศบาลตำบลเขาพนม (กระบี่), อบต.ควนขนุน (พัทลุง)
  • ภาคตะวันตก: อบต.บ้านยาง (พิษณุโลก)

ปีที่ 2: (10 ชุมชน ใน 10 จังหวัด) ขยายผลการดำเนินงานใน 10 ชุมชน ครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่:

  • ภาคเหนือ: เทศบาลตำบลป่าไผ่ (ลำพูน), อบต.บ้านหนุน (แพร่), เทศบาลตำบลแม่สะเรียง (แม่ฮ่องสอน)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: อบต.หนองโบสถ์ (บุรีรัมย์), อบต.หนองปลาหมอ (ขอนแก่น), เทศบาลตำบลท่าคันโท (กาฬสินธุ์)
  • ภาคกลาง: อบต.นาขอม (นครสวรรค์), อบต.รอบเมือง (ชัยภูมิ)
  • ภาคตะวันตก: อบต.บ่อทอง (อุตรดิตถ์), เทศบาลตำบลคลองลานพัฒนา (กำแพงเพชร)

ปีที่ 3: (10 ชุมชน ใน 10 จังหวัด) ดำเนินโครงการต่อเนื่องใน 10 ชุมชน ครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่:

  • ภาคเหนือ: อบต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว (เชียงราย), เทศบาลตำบลเด่นชัย (แพร่), เทศบาลเมืองลำพูน (ลำพูน)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ (ร้อยเอ็ด), เทศบาลตำบลไฮหย่อง (สกลนคร), เทศบาลตำบลศรีธาตุ (อุดรธานี)
  • ภาคกลาง: อบต.บ้านพราน (อ่างทอง)
  • ภาคตะวันตก: อบต.บ่อทอง (อุตรดิตถ์), เทศบาลตำบลคลองลานพัฒนา (กำแพงเพชร), อบต.บ้านยาง (พิษณุโลก)

รายละเอียดการพัฒนาสู่ความปลอดภัยอย่างยั่งยืนของแต่ล่ะชุมชนสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย.com จากการสำรวจและเก็บข้อมูลของ มูลนิธิไทยโรดส์ ซึ่งได้ทำการประเมินผลก่อนและหลังการปรับปรุงจุดเสี่ยงบนถนนในชุมชน พบว่า มาตรการปรับปรุงทางกายภาพ โดยเฉพาะการติดตั้งป้ายเตือนและป้ายจำกัดความเร็ว ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อ พฤติกรรมการใช้ความเร็วของผู้ขับขี่ การสำรวจนี้ดำเนินการใน 4 พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ อบต.ป่าก่อดำ จ.เชียงราย, เทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด, อบต.รอบเมือง จ.ชัยภูมิ และ อบต.บ้านพราน จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงและต้องการมาตรการจัดการเพื่อลดอุบัติเหตุ

ผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้ความเร็ว ก่อนและหลังการปรับปรุงทางกายภาพ

ช่วงความเร็ว (กม./ชม.)ก่อนปรับปรุง (%)หลังปรับปรุง (%)การเปลี่ยนแปลง (%)
≤ 30 (ความเร็วปลอดภัยในเขตชุมชน)10%25%+15%
31 - 60 (ยังคงมีความเสี่ยง)82%70%-12%
> 60 (เสี่ยงต่ออุบัติเหตุร้ายแรง)8%5%-3%

สรุป: ผลสำรวจจาก รถยนต์ 460 คัน ที่วิ่งผ่านพื้นที่ปรับปรุง แสดงให้เห็นว่า การติดตั้งป้ายเตือนและป้ายจำกัดความเร็วช่วยลดการใช้ความเร็วเกินกำหนดได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วในระดับปลอดภัย เพิ่มขึ้น 15% ขณะที่กลุ่มที่ใช้ความเร็วเกินกำหนดมีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน

การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นว่า การปรับปรุงทางกายภาพบนถนนในเขตชุมชนสามารถส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมการขับขี่ การติดตั้งป้ายเตือนและป้ายจำกัดความเร็วช่วยสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ผู้ขับขี่ ลดความเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่ออุบัติเหตุ การลดลงของอัตราความเร็วบนท้องถนน ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขเชิงสถิติ แต่เป็นสัญญาณของความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ และช่วยให้ชุมชนมีถนนที่ปลอดภัยขึ้นอย่างแท้จริง
ผลการสำรวจนี้ยืนยันว่า มาตรการที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ดีขึ้นได้ และเป็นก้าวสำคัญของโครงการพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย ที่มุ่งหวังให้ถนนในเขตชุมชนไม่เป็นเพียงเส้นทางสัญจร แต่เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย ลดการสูญเสีย และสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น

ความสำเร็จและรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ

ด้วย กลไกการบริหารจัดการที่ชัดเจนและต่อเนื่อง ควบคู่กับแนวทางการป้องกันและแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนที่ครอบคลุมและมุ่งเน้น สร้างความปลอดภัยอย่างยั่งยืน สำหรับคนในชุมชนและผู้ใช้รถใช้ถนน โครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” จึงได้รับ รางวัล Prime Minister Road Safety Award ในประเภท หน่วยงานภาคเอกชน ซึ่งจัดโดย ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในงาน สัมมนาวิชาการระดับชาติเรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 15

ความสำเร็จนี้ยังคงดำเนินต่อไป โดยในปี พ.ศ. 2567 บริษัทฯ ได้รับรางวัลดังกล่าว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และมีกำหนดเข้ารับรางวัลอย่างเป็นทางการในเดือน พฤศจิกายน 2567 รางวัลนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึง ความมุ่งมั่นในการสร้างถนนที่ปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นมาตรฐานที่ยั่งยืนต่อไป

ความสำเร็จนี้ยังคงดำเนินต่อไป โดยในปี พ.ศ. 2567 บริษัทฯ ได้รับรางวัลดังกล่าว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และมีกำหนดเข้ารับรางวัลอย่างเป็นทางการในเดือน พฤศจิกายน 2567 รางวัลนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึง ความมุ่งมั่นในการสร้างถนนที่ปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นมาตรฐานที่ยั่งยืนต่อไป

โครงการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยทางถนนและการประกันภัยกับลูกค้าและผู้สนใจ

บริษัทฯ มุ่งมั่นในการให้ความรู้ด้าน ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ผ่าน การผลิตและนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร พร้อมภาพประกอบ ที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยและประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น

  • ความรู้เกี่ยวกับ ประกันภัยประเภทต่างๆ และ กฎหมายด้านการประกันภัยและรถยนต์
  • ข้อมูลเกี่ยวกับ สิทธิและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
  • แนวทาง การป้องกันโรคและดูแลสุขภาพ
  • ข้อมูลบริการและการเข้าถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลเหล่านี้ถูกเผยแพร่ผ่าน เฟซบุ๊กธนชาตประกันภัย และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เพื่อเป็นศูนย์กลาง การเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความเข้าใจ และส่งเสริมให้ประชาชนมี ความรู้เท่าทันและสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้น การรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึง การแจ้งเตือนภัยที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยใช้ แพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร เนื่องจากสามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้การเผยแพร่ความรู้ด้านความปลอดภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ เครือข่ายขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน – อีกหนึ่งบทบาทสำคัญของธนชาตประกันภัยในการผลักดันและพัฒนาสังคมสู่ความยั่งยืน

ธนชาตประกันภัยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการ ผลักดันและสร้างสังคมที่ปลอดภัยบนท้องถนน ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมและการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน โดยมีบทบาทสำคัญในหลายเวที ดังนี้

  • เข้าร่วมกิจกรรมของสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เพื่อสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ด้านความปลอดภัยทางถนนร่วมกับ สื่อมวลชนและภาคีเครือข่าย ภายใต้เวที “ประชุมสานสัมพันธ์เครือข่าย ร่วมแรง ร่วมใจ ประเทศไทยปลอดอุบัติเหตุ”
  • ร่วมเสวนาในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติเรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 15 ภายใต้หัวข้อ “กลไกการสร้างระบบแห่งความปลอดภัยทุกระดับ” โดยนำเสนอความสำเร็จของโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” ซึ่งมุ่งเน้นให้ชุมชนเป็น กลไกหลักในการลดจุดเสี่ยงบนถนนสายรอง
  • เข้าร่วมประชุมระดมความคิดเห็นกับ สคอ. และ สสส. เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดด้าน งานสื่อสารประชาสัมพันธ์ และแสดงความคิดเห็นในฐานะ องค์กรภาคเอกชนที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน ภายใต้การประชุม “พัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ร่วมกับภาคีเครือข่ายเอกชนและสถาบันการศึกษา”
  • ร่วมรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ภายใต้แคมเปญ “ยิ่งดื่มนาน สมองยิ่งเสี่ยง ดื่มไม่ขับ” ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) และภาคีเครือข่าย ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 เพื่อเน้นย้ำว่า การดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการตัดสินใจและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
  • สนับสนุนมาตรการ “7 วันอันตราย” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยร่วมขยายเครือข่าย ชุมชนขับขี่ปลอดภัยใน 189 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ เพื่อเข้มงวดตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกคน และรณรงค์แนวทาง “ดื่มไม่ขับ - ไม่ขับเร็ว - สวมหมวกนิรภัย”

การมีส่วนร่วมของธนชาตประกันภัยในโครงการและเวทีระดับชาติเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่น ในการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและพฤติกรรมที่นำไปสู่การลดอุบัติเหตุและการสูญเสียบนท้องถนน

เสริมสร้างบุคลากรเพื่อช่วยเหลือผู้พิการ – อีกหนึ่งบทบาทของธนชาตประกันภัยในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับ การสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทาง โดยมอบ ทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาระดับปริญญาตรี โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 4 ทุน ทุนละ 25,000 บาท รวมมูลค่า 100,000 บาท

โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธรเป็น สถาบันการศึกษาด้านกายอุปกรณ์เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ผลิตนักกายอุปกรณ์คุณภาพสูง เพื่อช่วยให้ผู้พิการสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน บุคลากรในสาขานี้ยังมีจำนวนน้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนผู้พิการทั่วประเทศที่มีมากกว่า 400,000 คน

การสนับสนุนทุนการศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของ ความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้พิการและส่งเสริมการฟื้นฟูสมรรถภาพ ผ่านการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เช่น แขนเทียมและขาเทียมที่มีคุณภาพและเพียงพอ เพื่อให้ผู้พิการสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ สอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ ในการเป็น ผู้ให้บริการด้านประกันภัยที่มุ่งคุ้มครองและดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยง โดยเฉพาะ อุบัติเหตุที่นำไปสู่การสูญเสียอวัยวะและทรัพย์สิน

การสนับสนุนครั้งนี้ไม่เพียงช่วยพัฒนานักกายอุปกรณ์ให้มีศักยภาพในการดูแลและช่วยเหลือผู้พิการ แต่ยังเป็นการส่งเสริม ระบบสนับสนุนทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อคืนชีวิตและความหวังให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุและความพิการทางร่างกาย

Tags : 

บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน)

999/1 เดอะไนน์ทาวเวอร์ ถนนพระราม 9
แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250

1519

 

www.thanachartinsurance.co.th